Text and photos : Nuanlilou
“ในงานเซรามิค มีหลายสิ่งหลายอย่างที่
ถิง (ชลธิชา สุจริตพินิจ) เล่าให้ฉันฟังในมุ
ก่อนหน้านี้ ถิงเป็นนักวาดภาพประกอบ แต่ได้มีโอกาสได้ไปช่วยงานเจิ
“ตอนแรกๆเราก็ไม่กล้าปั้น กลัวมันจะแป๊ก ไม่รู้จะเริ่มยังไง เพราะมันมีรายละเอียดเยอะไม่
ทั้งคู่มันเป็น endless possibility แต่สำหรับงานวาด เราคาดเดามันได้มากกว่า สิ่งที่เราจะวาดมันอยู่ในหัวเรา เราสามารถดึงมันออกมาได้เกือบจะ
ถึงแม้จะเป็นงานเซรามิคเหมือนกั
ขณะที่คุยกับถิง ฉันนั่งเพนต์งานบนฝากา เซรามิคที่เจินปั้นให้ ไปพร้อมๆ กับนักเรียนหลายคนที่มาหัดปั้
ได้เวลาหรือยังที่เราจะไปปั้นดิ
Slow hands studio
https://www.facebook.com/slowhandsstudio/
Tel. 0835662324, 0814373611
IG : slowhands

“Walk on the Wide Side” Project II มีภาพถ่ายมากมายที่เกิดจากการเดินทางไปชมสถานที่ต่างๆ บางครั้งภาพนั้นแม้ว่าจะดูว่าสวยงาม ถ่ายมาแล้วถูกเก็บไว้ไม่ได้นำมาใช้ประโยชน์อะไร ในบางภาพก็ถูกนำมาเป็นภาพประกอบบทความ เสริมสร้างบรรยากาศใหม่เพิ่มอรรถรสให้กับตัวอักษรเท่านั้น แต่อย่างน้อยภาพถ่ายเหล่านั้นก็มีไว้เตือนความทรงจำว่ากาลครั้งหนึ่งเคยเดินทางไปเยี่ยมชมสถานที่แห่งนั้นมาแล้ว ดังนั้นภาพถ่ายจึงเป็นความทรงจำที่ดีที่สุดอย่างหนึ่งและเป็นการจดจำบางส่วนในประวัติศาสตร์แห่งชีวิต อีกครั้งกับการทำงานร่วมกับเพื่อนสนิทที่เคยมีผลงานร่วมกับแบรนด์ VICK’S มาแล้วกับ “ศุภชัย เพ็ชรี่” หรือ ”อาร์ต” วิชวลดีไซน์คนเก่ง ที่ฝากผลงานไว้มากมายกับผลงานที่มีลักษณะเฉพาะตัวและมีสไตล์ที่โดดเด่น เข้าร่วมการสร้างสรรค์ผลงานชุดพิเศษกับVICK’S โดยเลือกคัดลอกความรู้สึกของตัวเองผ่านบทเพลง “The Summer Wind” ของ Frank Sinata ออกมาเป็นผลงานภาพถ่ายที่ชื่อชุดผลงานของเขาเอง เป็นชื่อเดียวกันกับเพลงที่ตัวอาร์ตชื่นชอบเป็นพิเศษ อาร์ตเลือกบรรจุความอ่อนไหวของใบไม้และดอกไม้แบบต่างๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่ตัวเองถนัดลงไปบนงานของเขาอย่างพิถีพิถัน รวมถึงสร้างสถานการณ์ที่มีความละเอียดอ่อนเพื่อบันทึกอารมณ์ความรู้สึกของเขาในขณะนั้นร่วมไปกับสภาพแวดล้อมรอบตัวระหว่างการเดินทางของเขาได้อย่างอ่อนโยน จนกลายมาเป็นชุดภาพถ่ายชุดพิเศษที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวตามแบบฉบับของอาร์ต ผลงานภาพถ่ายของอาร์ตในครั้งนี้จึงไม่ได้เป็นเพียงการถ่ายภาพเพื่อบันทึกเวลา สถานที่ และความทรงจำแต่เพียงอย่างเดียว แต่ยังเป็นภาพที่เปิดให้เราได้สัมผัสมุมมองใหม่ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความอบอุ่นและอ่อนโยนในเวลาเดียวกันด้วย

เรามีโอกาสได้ไปแวะเที่ยวฝั่ง West Coast ของอเมริกา ทริปนี้สมาชิกมีเพียงเราและเพื่อนอีก2คน การเดินทางครั้งนี้เป็นการเดินทางที่แทบจะไม่ได้ปรึกษาใครเลย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเส้นทางการขับรถ, ที่พักหรือ spot ต่างๆที่ควรแวะ จุดหมายแรกเริ่มต้นที่ซานฟรานซิสโก เราเช่ารถจากที่นั่นและขับแวะตามเมืองต่างแบบวนตามเข็มนาฬิกาจนไปจบที่แอลเอ เรามีเวลาทั้งหมด12วัน ซึ่ง ณ ตอนนั้นคือมีสถานที่ที่อยากไปเยอะมากกว่าเวลาที่มี จนต้องมาคุยกันว่าเราจะตัดใจตัดที่ไหนออกไป เพื่อทำให้ตารางการเดินทางไม่แน่นและทำเราเหนื่อยกันจนเกินไป พวกเราเริ่มหาข้อมูลของแต่ละสถานที่ในลิสต์ที่วางไว้คร่าวๆ ต้องยอมรับเลยว่าตัวเลือกแรกที่เรากับเพื่อนเลือกตัดคือ ‘Death Valley’ โดยคิดว่าน่าจะเสียดายน้อยที่สุดถ้าพลาดไม่ได้ไป เพราะจากรูปภาพที่เจอใน Google ที่นี่ดูเป็นสถานที่ที่ไม่น่าจะมีอะไรน่าสนใจมากมายนัก ดูเป็นแค่เพียงที่ว่างเปล่ากว้างๆโล่งๆ ร้อนและแห้งแล้งมากจนไม่มีสิ่งมีชีวิตใดๆอาศัยอยู่ ไม่ว่าจะเป็นสัตว์หรือพืช แต่สุดท้ายแล้วเราตัดใจไม่ลง ยอมที่จะนอนน้อยและรวบตึงแพลนมากขึ้นเพื่อให้ได้ไปที่นี่ “เฮ้ย! ตื่นๆ ตื่นมาดูวิวก่อนนน..” เพื่อนเราที่เป็นคนขับรถตะโกนปลุกเรากับเพื่อนอีกคนที่เผลอหลับไประหว่างทางจาก Yosemite National Park ไปยัง Death Valleyในเช้าตรู่วันนึง ภาพแรกที่มองออกไปนอกหน้าต่างรถ คือมันสวยมากกกกกกกกก.. สวยงามมากจริงๆ เราทั้งสามอึ้งในความสวยงามของสิ่งที่เห็นข้างหน้า เส้นถนนที่ตัดตรงเป๊ะ ท้องฟ้าที่สีฟ้าสดในวันที่แดดจ้า พร้อมกับวิวธรรมชาติสองข้างถนนที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆตามลักษณะภูมิประเทศ มีทั้งเป็นภูเขา ผาหิน จนไปถึงพื้นที่กว้างราบเรียบที่มองได้ไกลจนสุดตา พืชพรรณ และต้นไม้ตามทางไม่คุ้นตานัก ช่วงเวลานั้นความง่วงและความล้าหายไปหมดเลย พอเข้าไปถึงตัวอุทยานแห่งชาติ […]